10 ธ.ค. 2553

ร้านสุวิทย์หัวปลา



วันนี้จะขอแนะนำร้านอาหารข้างทาง ชื่อร้านสุวิทย์หัวปลาวิภาวดี อยู่ริมถนน เลยซอยวิภาวดี 18 ไปนิดเดียว เป็นเต๊นท์เปิดขายเฉพาะเวลาเย็นถึงกลางคืน ไม่ขายกลางวันเพราะตั้งโต๊ะขายบนสะพานเข้าอู่ซ่อมรถติดถนนวิภาวดี และหยุดขายทุกวันจันทร์
 



ผมใช้บริการร้านนี้มาประมาณสามปีแล้ว ตั้งแต่ตอนทำงานคุมIT งานมันมากจนต้องอยู่เย็นถึงสองสามทุ่มทุกวัน พอเลี้ยวรถออกจากการบินไทยก็เห็นร้านนี้มีคนนั่งกันหนาแน่นเลยลองแวะชิม ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักเพราะเห็นเป็นร้านรถเข็นริมถนน เจ้าของร้านและพนักงานเป็นชาวอีสาน ก็สั่งข้าวต้มปลามากินให้อิ่มท้องก่อนกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าอร่อยผิดคาดครับ เนื้อปลาสด ไม่มีกลิ่นคาวเลย รสชาดกำลังดีไม่จัดจ้าน น้ำจิ้มที่มากับข้าวต้มเป็นสูตรเต้าเจี้ยวผสมซึ่งออกรสเปรี้ยวนำ ถ้าชอบรสเค็มควรขอเต้าเจี้ยวเปล่าๆมาผสมเพิ่ม ลองสั่งอาหารอย่างอื่นก็รสดีใช้การได้ โดยเฉพาะหมูทอด สั่งกันทุกโต๊ะ เนื้อหมูหมักและปรุงรสได้ดีจริงๆ คุมความร้อนได้ดีมาก หมูสุกทั้งชิ้นโดยไม่แข็งกระด้าง กรอบนอกนุ่มใน ใส่ปากเคี้ยวคำแรกจะรู้สึกเลยว่ากลิ่นของเครื่องปรุงมันทะลักออกจากชิ้นเนื้อ เคี้ยวสนุกมาก เคยพาลูกน้องไปนั่งกินห้าคน ต้องสั่งหมูทอดซ้ำถึงสองครั้ง


อาหารอื่นๆรสดีเกือบทุกอย่าง น่าจะเป็นเพราะเจ้าของร้านเคยทำงานร้านอาหารดังๆมาหลายแห่ง (เขียนบอกไว้ในเมนูครับ)
ที่จอดรถค่อนข้างสะดวก จอดริมถนนหน้าร้าน หรือเลยไปเล็กน้อยมีที่จอดในชอยเล็กๆข้างป้ายรถเมล์




ที่ชอบใจอีกอย่างคือร้านนี้ แม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆแต่ใช้ช้อนส้อมสแตนเลสครับ
(ผมเกลียดช้อนส้อมอะลูมิเนียมซี่งไม่แข็งแรงพอที่จะจิ้มหรือฉีกชิ้นอาหาร)




สิ่งที่จะติได้ก็คือ
1.
ใส่ผงชูรสในน้ำแกงครับ เขาไม่ได้ใส่ให้ผมเห็น แต่ผมค่อนข้างไวต่อผงชูรส ถ้ากินอาหารที่มีผงชูรสมาก ผมจะมีอาการแพ้ทันที กินร้านนี้มาสามปี ไม่เคยมีอาการแพ้ ถือว่าปริมาณที่ใช้ไม่อันตรายครับ
2.
ร้านนี้ไม่มีห้องน้ำครับ เช่นเดียวกับร้านแผงลอยทั่วไป ลูกค้าสตรีจะลำบากหน่อย แต่ดีตรงที่ลูกค้าไม่นั่งนาน

เสียดายที่ไม่มีรูปอาหารมาให้ดูกัน เพราะแสงในร้านน้อยเกินไป ถ่ายรูปออกมาแล้วมันไม่ชวนดู กลัวเสียชื่อคนเล่นกล้องครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น