3 พ.ค. 2554

China Palace สี่พระยา

ร้านอาหารจีนเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งบนถนนสี่พระยาซึ่งผมเคยไปตั้งแต่หนุ่มๆ ยังคงเปิดบริการอยู่ และปรับแต่งรูปโฉมใหม่ ดูทันสมัยและโอ่โถง มีโอกาสได้ไปย้อนความหลังเมื่อเดือนที่แล้วโดยการนัดแนะจากกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยไฮสกูลที่ยังคบกันอยู่อย่างเหนียวแน่น รสอาหารด้อยกว่าเดิมไปเล็กน้อย เพราะคงไม่ใช่กุ๊กคนเดิมของเมื่อสามสิบปีก่อน แต่ความอร่อยยังคงจัดเป็นอันดับต้นๆของกรุงเทพ

อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ก็มี  กุ้งมังกรอบ, หูฉลาม, หมูหัน, กุ้งทอดราดครีมสลัดกระทงเผือก, ป๋วยเล้งผัดกับไข่เยี่ยวม้า, ปลากะพงนึ่งมะนาว, ติ่มซำ,โกยซีหมี่ ฯลฯ แต่ที่ลูกค้านิยมที่สุดคือ ติ่มซำช่วงอาหารกลางวัน แม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่รับประกันได้ว่าถ้าไม่โทรจองไปก่อน ต้องนั่งรอโต๊ะอย่างแน่นอนครับ ร้านนี้เปิดสองช่วง อาหารกลางวันขายถึงบ่ายสอง เย็นเปิดหกโมงไปจนถึงสี่ทุ่ม

สิ่งที่จะขอแนะนำว่าอย่ามองข้ามคือยำเกี่ยมไฉ่ ที่เป็นเครื่องเคียง อร่อยมากครับ ซื้อกลับบ้านกันเกือบทุกคน กินกับข้าวต้มดีมาก

ติ่มซำที่ผมแนะนำมีดังนี้ครับ:
ก๋วยเตี๋ยวหลอด ไส้กุ้งและไส้หอยเชลล์

ฮ้าก๋าว

ขนมจีบหูฉลาม

ปูกับแอสปารากัส


เต้าหู้ยัดไส้


จานนี้ต้องสั่งครับ เผือกทอด อร่อยมาก

สิ่งที่สั่งเพิ่มจากติ่มซำก็มี
 ไก่ทอดเกลือ ทอดได้ดีมากครับ หนังเกือบกรอบ เนื้อแห้งไม่อมน้ำมัน ไม่เค็มจัด รสกำลังดี

 ปลานึ่งซีอิ๊ว รายการนี้ขาดไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ว่าร้านไหน

จานนี้คือ ป่วยเล้งผัดกับไข่เยี่ยวม้า ผมว่ารสมันจืด และผักค่อนข้างยุ่ย แต่เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่เพื่อนๆของผมชอบกันทุกคน อาจเป็นเพราะผมยังไม่แก่เท่าเพื่อนร่วมโต๊ะ

กุ้งมังกร ผัดกับโกยซิหมี่ เป็นSignature อีกจานหนึ่งของร้านนี้  กุ้งสดมากครับ


ของหวานยอดนิยม คือสาคูแคนตาลูป

เจ็ดคน กินกันแบบไม่มียั้ง ติ่มซำสามสี่รอบ รวมทั้งสั่งยำเกี่ยมไฉ่ติดมือกลับบ้านด้วย ไม่มีของมึนเมา คิดเงินแล้วจ่ายกันคนละประมาณเก้าร้อยบาท ถ้ากินติ่มซำอย่างเดียวโดยไม่สั่งอาหารอื่นเพิ่ม ราคาคงลดไปกว่าครึ่ง

แม้ว่าจะจองโต๊ะไว้แล้ว ก็ควรไปถึงร้านก่อนเที่ยงครับ เริ่มกินตอนที่คนยังไม่แน่น จะได้ไม่ต้องรออาหารนานให้เสียอารมณ์ ถ้าขับรถไปเอง เข้าถนนสี่พระยามาประมาณครึ่งกิโล ก่อนถึงซอยนเรศ ให้สังเกตุอาคารด้านซ้าย มองหาอาคารมิตรแท้ประกันภัยติดกับธนาคารเอเซีย สุดแนวอาคารมิตรแท้ประกันภัยจะเป็นซอกตึกเล็กๆทางเข้าร้าน มีป้ายร้านไชน่าพาเลสสีแดง เลี้ยวเข้าไปได้เลยครับ ต้องใช้ Valet Service ของร้าน เพราะเขาจะต้องเลื่อนสลับรถให้ลูกค้าเกือบตลอดเวลา เนื่องจากที่จอดไม่มากนัก ต้องจอดซ้อนกัน

297 สี่พระยา สี่พระยา บางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์ 02-631-5111-3

2 พ.ค. 2554

แมนดารินเป็ดย่าง ทองหล่อ

ว่างเว้นจากการเขียนไปสองเดือน เนื่องจากวุ่นอยู่กับตำแหน่งใหม่ เหมือนเป็นกรรม งานของผมแต่ละอย่างมักจะเป็นสิ่งที่ต้องเข้าไปแก้ไข หรือวางระบบใหม่ พอทำให้ใช้งานได้แล้ว เขาก็ย้ายผมออกไปทำอย่างอื่นต่อ อีกไม่นานคงได้ย้ายไปทุกสายงานในบริษัทแน่ๆ



(Click to enlarge)
ไปชิมร้านนี้มาเมื่อเดือนมีนาคมครับ ร้านนี้มีสองแห่งบนสุขุมวิท 55 หรือทองหล่อ ร้านดั้งเดิมจะขายเป็ดอย่างเดียว อยู่ทางต้นซอยทองหล่อ ด้านสุขุมวิท ส่วนใหญ่ลูกค้าจะซื้อTake Away แต่ถ้าต้องการนั่งสบายๆ อาหารหลากหลาย ต้องร้านที่อยู่ด้านท้ายซอยครับ เลยโรงพยาบาลคามิลเลียนมาสักสองร้อยเมตร เกือบจะถึงสะพานข้ามคลองไปเพชรบุรี แนะนำให้ไปแท้กซี่ครับ เพราะที่จอดรถหน้าร้านมีน้อย ฝั่งตรงข้ามมีที่จอดรถฟรี แต่ลำบากตอนข้ามถนน เพราะรถลงจากสะพานใช้ความเร็วสูง
ผมชิมเป็ดย่างร้านดังมาเกือบทั่วกรุงแล้ว ขอยกให้ร้านนี้อยู่ในระดับTop Three ฝีมือการย่างและรสชาติ ไม่แพ้ Four Seasons หรือเป็ดฮ่องกงเลย เพียงแต่ขนาดของเป็ดเล็กกว่าเท่านั้น


สถานที่โอ่โถง ขนาดสามคูหา ชั้นสองมีห้องแยก ด้านหน้าตั้งแผงไว้ขายTake Away การันตีโดยคุณหมึกแดงไว้ตั้งแต่ปี 48

ภายในร้านชั้นล่าง มีประมาณ 6-7 โต๊ะ ผมไปถึงเวลา 11.20 เป็นโต๊ะแรก พอถึงเวลาเที่ยงก็เต็มทุกโต๊ะ เขาจัดโต๊ะไว้หลวมๆ แบบไม่เอาเปรียบลูกค้า นั่งสบายไม่แออัด โต๊ะเก้าอี้ประดับมุก ภาชนะและอุปกรณ์รวมทั้งความสะอาดของร้านดีมาก

อาหารที่สั่งมาจานแรก คือ ไก่แช่เหล้าครับ เป็นอาหารที่ผมใช้เป็นตัววัดฝีมือและความพิถีพิถัน ของเชฟจานเย็นแต่ละร้าน จานนี้รสดีมาก ใช้เหล้าจีนอย่างดี ไม่ใช่เหล้าไวน์ทำอาหารราคาถูกอย่างร้านทั่วไป ใช้ไก่ขนาดกำลังดี ไม่ใช่ไก่กระทงซีพี เป็นไก่ใหญ่ที่ยังไม่อ้วน ไม่มีไขมัน พริกกวางตุ้งรสกลมกล่อม มีจุดที่ติได้เพียงอย่างเดียวคือ หนังไก่ลุ่ยจากเนื้อ น่าจะเป็นเพราะหมักเกินเวลาไปหน่อย ได้อย่างเสียอย่างครับ หมักได้เข้าเนื้อทุกจุดแต่หนังต้องลุ่ยเป็นธรรมดา




จานต่อๆมาก็เป็นเป็ดย่าง หมูย่าง บะหมี่แห้ง และคะน้าฮ่องกง เลือกเป็ดได้ดีมาก หนังบางไม่มีมัน เนื้อหนึบกำลังดี รสและกลิ่นของเป็ดย่างเกินบรรยายครับ ปรุงรสก่อนย่างได้เด็ดขาดมาก

หมูย่างมีเนื้อมากกว่ามัน ย่างด้วยถ่าน หนังกรอบสะใจไม่มีกลิ่นแก๊ซ ร้านที่หนังกรอบกว่านี้เห็นจะมีแต่ร้านนายไซ คลองประปา แต่ของนายไซ ใช้หมูหนังหนา และต้มให้หนังพองก่อนนำไปทอด ซึ่งอร่อยกันคนละแบบ

นำน้ำเป็ดมาคลุกบะหมี่พร้อมกับน้ำมันพริกทอด คลุกเคล้าให้เข้ากัน คีบเป็ดวางบนบะหมี่ก่อนส่งเข้าปาก แกล้มด้วยน้ำซุปแกงจืด สลับกับหมูย่างและคะน้าน้ำมันหอย เผลอแผลบเดียวเป็ดหมดจานซะแล้ว ต้องสั่งเพิ่มอีกครึ่งตัว ไปกันสี่คน กินเป็ดกันได้ทั้งตัว คงไม่ต้องถามอีกว่าอร่อยหรือไม่ ตกลงมื้อนี้ก็ไม่ได้สั่งอาหารอื่นอีกเลย ทั้งๆที่มีอาหารน่ากินในเมนูอีกหลายอย่าง ราคาก็ไม่แพงนักสำหรับร้านที่อยู่กลางเมือง ผมกะว่าอีกสักสองเดือนจะรวมเพื่อนสัก 7-8 คน ย้อนกลับมาร้านนี้อีกครั้ง คราวหน้าคงต้องใจแข็งไม่สั่งเป็ดกับหมูย่าง จะได้ลองอาหารจานอื่นๆบ้าง

เปิดขายทุกวัน 1100 - 2200
729/2 สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ 02-185-1385-6

24 ก.พ. 2554

ร้านเลิศรส สีลมซอย 4

ร้านเก่าแก่เปิดตั้งแต่ พ.ศ.2499 เกินห้าสิบปีแล้ว เข้าซอยสีลม 4 ไปราวสิบเมตร ไปกันสี่คนครับ


ผมมาเป็นครั้งแรก แต่เพื่อนร่วมโต๊ะเคยเป็นขาประจำเมื่อสิบกว่าปีก่อน ภายในร้านสะอาดสะอ้านดี อาหารเป็นจีนฟิวชั่นประเภทหมูอบ เนื้ออบ ตามแบบโบราณของร้านย่านสีลม ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอาหารกลางวันมักจะสั่งอาหารจานเดียวประเภทข้าวราดหน้าหรือบะหมี่ราดหน้าเพื่อความรวดเร็ว โต๊ะเราไม่รีบร้อน จึงสั่งอาหารหลายอย่างมาลองชิม

อย่างแรกคือต้มยำกุ้ง เครื่องปรุงเข้มข้นดี แต่ติดจะเปรี้ยวไปเล็กน้อย



สองจานต่อมาคือ หมูอบและไก่อบ เปื่อยกำลังดี เคียงด้วยString Bean ทอดน้ำมัน กลิ่นเครื่องปรุงนุ่มนวล กลิ่นและรสของทั้งสองจานคล้ายกันมาก


จานต่อมาคือแกงกะหรี่ไก่ จานนี้รสดีมากครับ เครื่องเทศหอมกรุ่น เนื้อไก่ยุ่ยกำลังดี ตักน้ำแกงราดข้าวแกล้มด้วยอาจาดส่งเข้าปาก คอหอยเปิดโล่งไปหมด ลืมอาหารจานอื่นๆไปเลย

ยำกุ้งฟู ทำแบบเดียวกับยำปลาดุกฟู ทอดกุ้งได้ดี แห้งและกรอบ ไม่อมน้ำมัน รสของเครื่องปรุงกับมะม่วงซอย กลมกล่อม รสเปรี้ยวหวานกลมกลืนอย่างประณีต แสดงถึงความใส่ใจในการปรุงรส จานนี้ผมแนะนำสำหรับคุณสุภาพสตรีครับ

สุดท้ายเป็นผักกาดขาวน้ำมันหอย ผัดผักสุกกำลังดี ผักไม่เละ ยังคงความกรอบในส่วนของก้านผักกาดไว้ รสเครื่องปรุงอ่อนจาง กลิ่นน้ำมันหอยไม่จัดจ้านอย่างร้านอื่นๆ เหมาะกับการคั่นรสและกลิ่นอาหารที่กลิ่นแรงอย่างแกงกะหรี่ได้ดี

ของหวานที่ขึ้นชื่อของร้านนี้ และทุกคนต้องสั่ง คือคาราเมลคัสตาร์ด น่ากินมากครับ

ร้านเลิศรส
74 - 74/1 สีลมซอย 4
บางรัก กรุงเทพ 10500
0-2234-3754

เปิดจันทร์ถึงเสาร์ 1000 - 2100 หยุดวันอาทิตย์

7 ก.พ. 2554

Sam's Fish&chips

วันศุกร์ที่แล้วเพื่อนร่วมรุ่นมัธยมที่ยังคบหากันอยู่ 7-8 คน นัดกันไปสังสรรค์ที่ร้าน Sam's Fish&Chips ที่ซอยพิพัฒน์ 2 สีลม เปิดGarminดูก็ไม่พบในPOI ลองเปิดGoogle Map พบตำแหน่งร้านคร่าวๆ ที่ N13.724915/E100.532219 ก็เลยค้นต่อในGoogle มีชาวต่างชาติเขียนรีวิวไว้สองสามราย และเคยลงในBangkok101 ของบางกอกโพสต์มาแล้ว

ผมไปถึงร้านราวหกโมงเย็น ค่อนข้างหายาก เพราะติดป้ายไว้น้อยและมีต้นไม้บัง


ร้านอาหารอยู่บนดาดฟ้าของตัวอาคาร ทางขึ้นเป็นบันไดเวียน


ร้านจัดแบบง่ายๆ เปิดโล่งไม่ใช้เครื่องปรับอากาศ บรรยากาศเป็นกันเอง ดูคล้ายๆ ร้านแถบชานเมือง เมดิเตอเรเนียน คุณมนัส หรือแซม เจ้าของร้านต้อนรับลูกค้าเอง คุยสนุก เป็นกันเองดีมาก  สอบถามได้ความว่า ร้านนี้เป็นบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เด็กๆ ตัวบ้านดัดแปลงเป็นบริษัท จนกระทั่งกเษียณอายุเมื่อปีที่แล้ว ก็อยากจะเปิดร้านอาหารที่บ้าน เพื่อไม่ให้ลืมวิชาการทำอาหาร ต่อรองกับภรรยาอยู่นาน ในที่สุดก็ได้พื้นที่บนดาดฟ้าซึ่งเดิมเป็นสวนไม้ประดับ คุณแซมก็จัดการตั้งครัว แต่งร้านเองทั้งหมด ประมาณว่าทำด้วยใจรัก แต่ดูจากกระแสตอบรับของลูกค้าแล้ว ผมว่าอีกไม่นาน บ้านนี้คงเปลี่ยนเป็นร้านอาหารทั้งหลังอย่างแน่นอน

อาหารของผมวันนี้ สั่งตามที่คุณแซมแนะนำคือ Caesar Salad, Clam Chowder, Pan-Fried Tilapia และ Cheese Cake เพื่อนๆในโต๊ะสั่งกันอีกหลายอย่างเพื่อจะได้แบ่งกันชิม
Caesar Salad

Clam Chowder


Appetizer จานแรกที่คุณแซมยกมาให้ชิมโดยไม่ได้สั่ง คือ ปีกไก่ทอด (Drum stick) ชุบแป้งบางๆ สุกพอดีแบบผิวยังไม่แข็ง รสจัดจ้านแบบไทย แกล้มกับเบียร์ได้เด็ดขาดมาก


จานที่สองผมสั่งเอง เป็นหอยแมงภู่นิวซีแลนด์อบ ใส่เครื่องปรุงแบบไม่กลัวขาดทุน กินกับขนมปังกระเทียม จานนี้ขอแนะนำให้ดื่มกับ Sauvignon Blanc



ปลาที่ใช้ในร้านนี้มีสองชนิด คือ Dory และ Tilapia
Doryเป็นปลาน้ำเค็มครับ มีหลายสายพันธ์ แต่ที่นิยมนำมาทำFish&Chips จะเป็นJohn Dory (St.Peter's Dory) รูปร่างแบบเดียวกับที่ใช้เป็นLogoของร้าน คุณแซมบอกว่าต้องใช้ของอิมพอร์ต (ถ้าคิดจะซื้อมาทำกินเอง อย่าสับสนกับ Pacific Dory ซึ่งเป็นปลาสวายเวียตนาม) ส่วนTilapiaเป็นปลาน้ำกร่อยหรือน้ำจืด สายพันธ์เดียวกับปลานิล-ปลาทับทิม

ปลาดอรี่ชุปแป้งทอดทำได้ดีมากครับ แป้งที่ฉาบผิวปลาบางแต่กรอบ สีเหลืองทองไม่เข้ม และไม่อุ้มน้ำมัน แป้งไม่หนาเป็นกล้วยแขกเหมือนปลาทอดรถเข็นริมถนนในลอนดอน เครื่องปรุงรสในเนื้อแป้ง หอมกลมกล่อม จานนี้คนอังกฤษที่เคยมาชิม เขียนชมในรีวิวว่าจัดให้อยู่ในสามอันดับท้อป ของร้านในกรุงเทพฯ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาลง เพราะเพื่อนเป็นคนสั่ง


Tilapia ทำแบบ pan-fried สุกกำลังดี เนื้อปลายังนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง หอมกลิ่นเนยสด รสจืดไปหน่อยสำหรับคนกินรสจัดอย่างผม ต้องโรยเกลือเล็กน้อย มันฝรั่ง ทั้งแบบ Bake และ Chips สามารถใช้คำว่าHome-made ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ใช่มันบดแล้วทอดอย่างของร้านแฮมเบอร์เกอร์

เนื้อแกะและเซอร์ลอยน์ ขอแบ่งจากจานของเพื่อนมาชิม เป็นเนื้ออิมพอร์ตคุณภาพดี แต่ก่อนจะติชมกันได้ ควรต้องกินทั้งจานครับ ชมกันมากไปเดี๋ยวจะหาว่ารับเงินเขามาเขียนเชียร์ คงต้องย้อนกลับมาชิมกันอีกครั้งในเร็วๆนี้

ของหวานเป็น Cheese cake ซึ่งคุณแซมแนะนำ ความจริงผมไม่อยากได้ของหวานเพราะกำลังคุมน้ำหนัก แต่ดูแกจะภูมิใจกับของหวานจานนี้มาก เลยลองซะหน่อย ไม่ผิดหวังครับ โดยเฉพาะแป้งCrust ที่รองรับเนื้อCake อร่อยมาก หนาพอดีไม่แข็งจนกรอบ และไม่ยุ่ยเกินไป หยิบทั้งชิ้นได้โดยไม่ปริแตก มีกลิ่น Cinnamonจางๆ ใครที่เคยทำแป้งCrustเอง คงจะรู้ว่า กว่าจะได้ส่วนผสมที่ถูกต้อง มันยากเย็นขนาดไหน

นอกจากทำร้านอาหารแล้ว เจ้าของยังเปิดสอนการทำอาหารด้วย
ท่านที่จะตามลายแทงมาลองชิม ขอแนะนำให้โทรศัพท์จองโต๊ะล่วงหน้าด้วยครับ เจ้าของร้านบอกว่าแน่นทุกวัน เพราะมีอยู่เพียง 6 โต๊ะ ลูกค้าส่วนมากเป็นชาวต่างชาติและลูกเรือแอร์ฟรานซ์ น่าจะเป็นเพราะราคาที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพอาหาร ถ้าขับรถไปเอง ต้องระวังจะเลยร้าน เพราะซอยนี้ ช่วงจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟไปจนถึงซอยสีลม3 เป็นถนนวันเวย์ ถ้าเลยไป ต้องเลี้ยวออกไปสาทรแล้วย้อนกลับไปเข้าจากซอยคอนแวนต์มาใหม่ ทางที่ดีครั้งแรกไปรถBTSดีกว่าครับ

โปรดทราบ มีผู้ที่อ่านBlog แจ้งมาว่า จากสถานีBTS ช่องนนทรีเข้ามาทางซอยพิพัฒน์ค่อนข้างเปลี่ยว หลังเวลา 1700 อย่าเดินคนเดียวครับ

Sam's Fish&Chips
146 คอนแวนต์ ซอยพิพัฒน์ 2 สีลม กรุงเทพฯ 10500
Tel 02-234-7335, 081-482-3336
email: sam_atlanta@hotmail.com